มนุษย์ต้องการความประสบความสำเร็จ ตามความฝันนี่เรา ๆ ท่าน ๆ ที่พยายามก้าวเดินไปตามถนนแห่งความฝันที่ตั้งใจไว้ ไม่ว่าความฝันนั้นจะดูยิ่งใหญ่น่าตกใจหรือตั้งไว้เล็กมาก จนแทบไม่น่าเชื่อ แต่ในที่สุดก็สรุปได้ว่าฝันของเขาก็แค่อยากให้ชีวิตมีความสุขกับรูปแบบชีวิตที่เรียบง่าย
เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ 19 ประการมีดังนี้
1.สุขภาพดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
ผู้มีสุขภาพดีย่อมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพหากร่างกายมีสุขภาพไม่ดีร่างกายมีปัญหา ก็ควรใส่ใจต่อสุขภาพ
การดูแลสุขภาพโดยการไม่ทำลายสุขภาพของตนเองโดยการดื่มเหล้าเป็นอาจิณติดบุหรี่งอมแงม
จงดูแลสุขภาพโดยการหาอากาศดี ๆ หายใจ ห่างไกลจากควันไฟ ควันบุหรี่ ฝุ่น
จงกินเพื่ออยู่ ไม่ใช่อยู่เพื่อกิน แล้วเลือกอาหารดี ๆต่อสุขภาพมารับประทาน และจงกินแต่พอดี ๆ
ออกกำลังกายวันละเล็กละน้อย สม่ำเสมอ เป็นยาอายุวัฒนะหาวิธีการเดินบ้าง แทนการใช้รถ การขึ้นบันไดแทนการขึ้นลิฟท์
นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
หาหนังสือมาอ่าน หรือกินนมอุ่น ๆ ก่อนนอน จำให้หลับสบายเพื่อหลีกเลี่ยงการกินยานอนหลับ
ทำงานด้วยใจรัก และเป็นสุข ในขณะทำงานจะเหมือนเป็นการพักผ่อนหย่อนใจไปด้วย
แบ่งเวลามาทำงานอดิเรกบ้าง ทำในสิ่งที่ชอบและมีความสุขขณะทำ
พบเพื่อนฝูงที่ถูกใจ สนุกสนานเป็นกันเองในขณะคุยต่อชีวิตเพื่อเป็นแนวทางสร้างสุข
ศึกษาธรรมมะและปรัชญาอะไรก็ได้ ที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิตเพื่อเป็นแนวทางสร้างสุข
ทำใจให้มีจิตใจเบิกบาน สร้างความกลมกลืนวิถีชีวิต ไม่ตึงเครียดเหมือนเครื่องจักรที่ได้รับการหล่อลื่นอย่างดี
2.พูดแบบไหนถูกใจคน
ใช้หนังสือเป็นคู่มือ ใช้พจนานุกรมเพื่อให้รู้ความหมาย แล้วใช้ภาษาไทยได้อย่างถูกต้อง
พกสมุดโน๊ตติดตัว พบคำใหม่ หรือสำนวนใหม่ที่พบแล้วหาเวลาว่าง ๆ มาอ่าน แล้วนำไปใช้ในการสนทนา
จัดเรียงรูปประโยคที่พูดออกมาให้สละสลวย
3.เพิ่มพลังให้การรวบรวมความคิด
การรวบรวมกำลังความคิด จะทำให้อยู่เหนือสถานการณ์สามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้โดยง่าย หากกำลังนั่งใจลอย ก็เรียกสติกลับมาห้ามเบื่อหน่ายในสิ่งที่กำลังทำ เวลาทำงานก็มีหยุดพักกลางวันบ้างเพื่อไม่ให้เกิดความล้า
จงกระตุ้นตนเองโดยให้มองถึงจุดหมายในชีวิตจะได้มีพลังห้ามอ้างว่าไม่มีเวลาผลัดกันประกันพรุ่งห้ามคิดว่าผมทำไม่ได้ จงกำหนดเวลาแล้วเสร็จ ไม่ปล่อยไปอย่างเอ้อระเหย ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นที่คุณไม่พอใจหรือมีผลต่อชีวิตเพียงใด ก็จะไม่ท้อถอยหรือยอมแพ้ จงเชื่อว่าทุกอย่างแก้ไขได้
4. พัฒนาความจำของตนเอง
จงจำให้ได้ เพื่อให้หลุดพ้นต่อความตื่นเต้น ความกระวนกระวายจนขาดความมั่นใจในตัวเอง จงอย่าให้สมองจำสิ่งที่ไม่ควรจำ จนเป็นความจำที่เลวร้ายจงพยายามจดจำแค่เรื่องที่ดี ๆ มองโลกในแง่ดี สามารถมีความสุขกันทุกวันที่ผ่านมา
จงเลิกพูดถึงความทรงจำที่เลวร้าย จงหาทางล้างความทรงจำเก่า ๆที่ไม่มีประโยชน์กับตัวเอง เพื่อให้เหลือที่ว่างไว้ใส่ความทรงจำดี ๆ ใหม่ ๆที่ได้เจออาจทำโดยทบทวนสิ่งต่าง ๆที่เกิดขึ้น และนำมาจดจำเป็นพิเศษก่อนจะนอน และหลังตื่นนอนทุกวัน
จงไว้วางใจกับสมองของตนเองว่า สามารถจำได้
จงสนใจที่จะจำชื่อคน หรือทบทวนความจำโดยการพูดดัง ให้ตัวเองได้ยิน ทำบ่อย ๆ ก็จะจำได้สรุปทั้งหมดดีกว่ามองแบบผ่าน ๆ
จงเชื่อมโยงความรู้ใหม่ ๆ ให้ประสานต่อเนื่องกับความรู้เดิมที่มีอยู่ด้วย
5.อารมณ์ที่ดีขึ้น
จงปัดกวาดทำความสะอาดอารมณ์ หากมองโลกในแง่ร้ายทุกอย่างก็เป็นศัตรูหมดเวลาที่ใจท้อแท้ เสียงพูดหน้าตาก็ดูสิ้นหวัง จงหยุดมองโลกในแง่ร้ายหยุดด่าทอตัวเอง จงขับไล่อารมณ์ที่สิ้นหวังออกไป อย่าให้ความรู้สึกในแง่ร้ายเกิดจากความโลภขณะที่ปีนขึ้นยอดผาจงหยุดมองทัศนียภาพรอบข้างเป็นระยะ ๆ ไม่ใช่ก้มหน้าก้มตาเดินไป พอถึงยอดผาก็จะมีคนรอบข้างเข้ามาห้อมล้อมท่ามกลางความโล่งอก
จงมองมิตรภาพให้เพื่อน ๆ รอบตัวโดยที่ไม่จำเป็นต้องไปซื้อหาด้วยเงินทอง จงมอบรอยยิ้มและคำทักทายมอบให้กับคนกวาดถนน บุรุษไปรณีย์ คนทำความสะอาดที่ทำงาน คนเก็บขยะ เพราะวันหนึ่งเราอาจจะต้องขอความช่วยเหลือจากเขาก็ได้
กระจกที่ขุ่นมัวจากคราบสกปรก คงสดใสไม่ได้หากไม่ได้รับการทำความสะอาด จิตใจก็เช่นกัน
6.เสียงที่มีเสน่ห์และการพูดที่ชัดเจน
การพูดดีย่อมปูทางที่ดี การพูดดีต้องพูดอย่างมีประสิทธิภาพคนแต่งตัวธรรมดา พูดทุกคำมีคุณค่า เขาย่อมได้รับการยอมรับจากผู้ฟัง ตรงข้ามคนแต่งตัวดีพูดเรื่องน่าเบื่อไร้สาระย่อมหาคนฟังได้ยาก
การฝึกพูดบ่อย ๆ จะทำให้การพูดมีประสิทธิภาพการพูดที่มีเสน่ห์ ต้องมีเสียงลักษณะอ่อนโยน น่าสนใจ นุ่มนวลจริงใจ ตั้งใจ และประทับใจ
การพูดเร็ว ๆ น้ำเสียงที่เชี่ยวกราด ย่อมไม่มีเสน่ห์หากหมั่นฝึกพูดด้วยน้ำเสียงที่น่าเกลียด และคำพูดที่หยาบกระด้าง
การออกกำลังกายมีผลต่อการพัฒนาการพูดเพราะทำให้กล้ามเนื้อที่เกี่ยวกับการออกเสียงแข็งแรง
7.ไหวพริบที่ดีสร้างพรุ่งนี้ให้คุณ
ไหวพริบที่ดีจะช่วยประสานระหว่างงานที่เราทำกับชีวิตครอบครัวเพื่อไม่ให้เกิดการแตกหักขัดแย้งกัน โดยแก้ปัญหาให้ชีวิตราบรื่น และกลมกลืนได้ตลอดไป
การกระทำที่ไม่ฉลาดในบางช่วงชีวิต ด้วยความหุนหันพลันแล่นพลั้งเผลอไป อาจต้องมานั่งเสียใจตลอดทั้งชีวิต เป็นสิ่งสำคัญ แต่ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิตจงจำไว้ง่าย ๆ คือ จงทำในสิ่งที่ควรทำ และไม่ทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ ทั้ง ๆที่รู้อยู่แก่ใจว่าไม่ควรทำแต่ยังทำจนได้ แสดงว่าความคิดของคุณถูกอารมณ์ควบคุมไว้ ทำให้พฤติกรรมไม่ไปตามความคิด
หลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่จะเกิดผลลบกับตัวเอง มีดังนี้การดูถูกผู้อื่น การล่วงละเมิดชีวิตส่วนตัวของผู้อื่น การชมตัวเองให้ผู้อื่นฟัง (ยกตนข่มท่าน)สอนคนอื่นในงานของเขาเพราะเขาภูมิใจมากที่สุดในอาชีพเขา
จงเพิ่มไหวพริบให้กับตัวเอง โดยคิดว่าหากเราเป็นเขาเราควรจะทำอย่างไร (เอาใจเขามาใส่ใจเรา) ผลงานธรรมดา แต่ลีลาเป็นต่อ
8.สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับหัวหน้า
นายจ้างทุกคนย่อมต้องการใช้เงินของเขาอย่างเต็มคุณค่าที่สุดในธุรกิจที่เขาสร้างขึ้นมา จงมาสร้างความประทับใจให้กับนายจ้าง
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง มีการมาสายเป็นประจำใช้ทรัพย์สินของบริษัทไปโดยเปล่าประโยชน์ ปล่อยเวลาให้เวลาผ่านไปอย่างไร้ค่า และทำงานไม่เต็มที่
จงพัฒนาตัวเองด้าน ทำงานประณีต สะอาดสุดแม้จะยาก พัฒนาการพูดถึงงานและนายจ้างได้อย่างน่าประทับใจ
สร้างความสนใจในงานของตัวเอง จงค้นหางานที่ทำด้วยอะไรคือที่มาของงาน ขอบเขตหน้าที่ ภาพการพัฒนางานในอนาคต ความสัมพันธ์กับเป้าหมายการผลิต ผลผลิตขั้นสุดท้ายสัมพันธ์กับงานส่วนอื่น จงตั้งคำถามต่าง ๆในงานของคุณจงฝันถึงความก้าวหน้าของตนเองด้วย
จงตั้งใจทำงาน เบิกบานใจในการทำงาน สร้างมนุษย์สัมพันธ์ทำงานด้วยความรู้สึกสบายใจและจงพึงพอใจในงาน
9.พัฒนาอุดมการณ์ของตนเอง
คนมากมายใช้ชีวิตแพล่องลอยไร้แก่นสาร เพราะดำเนินชีวิตแบบขาดมาตรฐานและไร้อุดมการณ์ อุดมการณ์อย่างง่าย
ก็คือรักษาสุขภาพให้แข็งแรงสมบูรณ์ที่สุด จงหลีกเลี่ยงหลีกหนีเป็นคนที่น่าสงสารที่สุด จงเคารพตัวเองสร้างอุดมการณ์ของชีวิตที่จะก้าวเดินไป
10.สร้างเป้าหมายชีวิตให้สมบูรณ์
จงสร้างเป้าหมายที่แน่นอนที่สมบูรณ์แบบในชีวิตที่อยากมีชื่อเสียง เป็นคนดีของชาติครูมักจะถามว่าโตขึ้นหนูอยากจะเป็นอะไร
พอโตขึ้นก็เริ่มรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ จึงปลุกขวัญตัวเองว่า เราต้องทำได้ความกลัวเป็นอุปสรรคต่อความฝัน จึงกระโดดออกมาจากความฝันเนื่องจากฝังใจอยู่กับความเจ็บปวดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สร้างอุปทาน
จงอย่าเชื่อถือโชคลาง เพราะจะทำให้เป็นคนฟุ้งซ่านงมงายขาดอิสระในการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องตามอุดมการณ์ของตัวเอง จงอย่าคิดว่าตนเองเป็นคนโง่เขลาเพียงแต่เรายังไม่รู้เท่านั้น จงยอมรับความคิดว่าเรายังไม่รู้ เพิ่งเริ่มต้นเรียนรู้สิ่งนั้นจงอย่ากลัว จงอดกลั้นและใจเย็น จงพิจารณาปัญหาให้เห็นทางแก้ไขปัญหา อย่าไปหวาดหวั่น จงไม่ลำเอียงอคติ จงสร้างความมั่นคงให้กับตัวเอง จงไว้วางใจตัวเอง จงเบิกบานใจและหลีกเลี่ยงการมองโลกในแง่ร้าย
11.การสื่อสารที่ดี
จงพัฒนาการสื่อสารให้มีคุณภาพ
จงนับถือตัวเองว่าตัวเองมีค่าการสนทนาจะดูงดงาม อีกทั้งต้องมีจิตใจที่มั่นคงไม่โดนกระทบจากคำพูดหรือคำไม่สุภาพจากคนอื่น จงพัฒนาน้ำเสียงการพูดและน้ำเสียงที่น่าฟัง ทุกครั้งที่มีการสนทนา
จงทำให้สมองว่างเพื่อทำให้สามารถเติมความรู้เข้ามาในสมองได้
จงหลีกเลี่ยงการพูดถึงความผิดและจุดด้อยของตัวเองและของคนอื่นด้วย
อย่าผูกขาดการสนทนาแต่เพียงผู้เดียว จงเป็นทั้งผู้พูดและผู้ฟังที่ดีตลอดการสนทนา สังเกตด้วยว่าผู้ฟังกำลังสนใจฟังเรื่อที่เราพูด หากไม่ก็ควรเปลี่ยนหัวเรื่องสนทนา
จงแสดงความห่วงใยผู้ฟังด้วยในทุกข์สุขดิบ แต่อย่ามากจนเป็นซักฟอกเรื่องส่วนตัวมากเกินไป
แสดงความเป็นกันเอง เพื่อไม่ให้เกิดการอึดอัดในการร่วมสนทนาเพื่อให้การสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จบการสนทนาควรจบด้วยถ้อยคำที่ทำให้คู่สนทนาอยากกลับมาคุยกันอีก
12.อ่านมากรู้มาก
คนฉลาดจะหาหนังสือมาอ่านอยู่เสมอหนังสือมีเลือดและชีวิตซ่อนอยู่ทุกตัวอักษร ขึ้นอยู่กับว่าจะสัมผัสได้มากน้อยแค่ไหน หนังสือไม่เคยไร้คุณค่าหนังสือช่วยย่นระยะทางในการค้นหาประสบการณ์ หนังสือคือสิ่งที่เติมเต็มในช่องว่างของความฉลาดและไหวพริบ
จงอ่านหนังสือให้เป็นวินัยแลกเปลี่ยนหนังสือกันอ่านเลือกหนังสืออย่างไรจึงจะหลักแหลม จงรู้ว่าสิ่งที่ขาดคืออะไร อย่าหาข้อผิดพลาดในวรรณกรรมเพราะจะทำให้สูญเสียสิ่งที่มีคุณค่า อย่าสร้างเงื่อนไขในการเลือกรับรู้การอ่านเร็วเพื่อหาเนื้อหาโดยภาพรวม โดยวิธีการกวาดสายตาอย่างไรก็ตามอ่านตามวิธีการที่ถนัดกับตัวเองเพื่อให้การรับการถ่ายทอดเนื้อหาจากผู้เขียนได้อย่างลึกซึ้ง
13.ปัญหาทุกอย่างแก้ไขได้
ทุกชีวิตมีปัญหา หากงานมีปัญหา ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้การแก้ปัญหาจึงเป็นส่วนหนึ่งของวิถีวิชีวิต มีปัญหาก็แก้ปัญหาไป
จงเป็นเหมือนจุกไม้ก๊อกที่ลอยอยู่ในทะเล แม้ว่าคลื่นจะพัดกระหน่ำแค่ไหน จุกไม้ก๊อกก็ไม่มีวันจม
จงเผชิญหน้ากับปัญหารวบรวมข้อมูลที่ตรงประเด็นให้มากที่สุดศึกษาความเป็นไปได้ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นบวกหรือลบกับคุณกันแน่จำกัดวงของปัญหาให้แคบที่สุดเท่าที่คุณจะสามารถทำได้ รวมพลังฝ่าฟันปัญหาออกไป โดยใช้เวลาให้น้อยที่สุด
จงแก้ปัญหาด้วยใจสงบ โดยปราศจากอารมณ์ฉุนเฉียวหรือกล่าวโทษผู้อื่น รวบรุมสติแก้ไข จงแก้ปัญหาในขณะที่มันยังเล็กอยู่ ปล่อยไปมันจะเป็นปัญหาใหญ่แล้วแก้ยาก
14.เพิ่มความสุขให้ตัวคุณเอง
เมื่อคุณมองบางสิ่งที่เป็นความสุขให้บางคนโดยปราศจากความใจแคบคุณจะพบกับความสุขอันแท้จริง จงหาโอกาสช่วยเหลือผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ตกยาก กำพร้าขาดความรักและความอบอุ่น คนชราไร้คนเหลียวแล
ให้มีงานอดิเรกเพื่อผ่อนคลาย เรียนรู้ที่จะชอบงานของตนเองจงหาวิธีให้มีความสุขจาการทำงาน สนุกกับงาน และสร้างบ้านที่อยู่ให้เป็นสุข สังสรรค์พูดคุยกับคนอื่น และหาปรัชญาชีวิต เอาไว้เป็นหลักด้วย
15.วิสัยทัศน์ที่กว้างไกล
เข้าห้องสมุดอ่านสารานุกรม เพื่อให้รู้กว้างและเยี่ยมพิพิธภัณฑ์ ย้อนดูอดีต เข้าฟังการบรรยายต่าง ๆ บ้างก็ดี จงอ่านหนังสือพิมพ์ นิตยสาร หนังสือแล ธรรมมะ ชาดก กีฬาวิทยาศาสตร์ พร้อมเปิดโลกกว้างด้วยการชมทีวี และวีดีโอ
16.มากกว่าที่คุณคิด (พัฒนาความคิด)
จงพัฒนาพลังความคิดของตนเอง จงอ่านเพื่อให้มีข้อมูลมากขึ้นเข้าร่วมถกปัญหาพยายามค้นหาคำตอบ จากการที่มีคนถาม
17.โครงการแล้วโครงการเล่า
ให้มีโครงการใหม่อยู่ตลอดเริ่มคิดแผนการเตรียมไว้เสมอก่อนงานที่ทำอยู่กำลังจะสิ้นสุดจบลง วิธีนี้จะทำให้คุณไม่มีเวลาคิดถึงความทุกข์หงอยเหงา
ความยุ่งไม่ใช่ตัวทำลายความสงบใจ แต่ความเกียจคร้านและการผลาญเวลาที่เป็นสาเหตุของความเบื่อหน่าย และสร้างปัญหาในอนาคตอันใกล้
จงสร้างสุขภาพให้ดี จะได้ทำงานได้ดีจงเตรียมพร้อมอยู่เสมอตั้งแต่การวางแผน การลงมือปฏิบัติ และสุดท้ายจงมีชีวิตอยู่ได้อย่างเรียบง่าย
18.ความสงบเงียบในทั้งหมด
คนที่เยือกเย็นจะสงบกับชีวิตมากกว่าคนที่ชอบตีโพยตีพายและมีชีวิตอยู่อย่างร้อนรน
จงเรียนรู้ตัวเอง ให้คุณค่าชีวิตตนเอง เรียนรู้ประวัติศาสตร์เรียนรู้ที่จะทำตัวตามสบาย ล้างความเครียดและความกังวล
19.ถึงเวลาสร้างฝันให้เป็นจริงแล้ว
ปรับเข้าสู่ความสวยงาม สนุกกับความจำเป็น ทำไมต้องกินต้องดื่มทำไมต้องใช้เวลาถึงสองในสามเพื่อสร้างความร่ำรวยให้ชีวิต
บางคนคิดว่าตัวเองจำเป็นต้องทำงานเพื่อความอยู่รอด ทำให้ไม่มีเวลาที่จะทำหลาย ๆ สิ่งที่คุณสนใจคุณอาจเบื่อหน่ายกับการต้องทำงานหนักในขณะที่ต้องการประสบความสำเร็จในอาชีพ
อย่าทำงานเพื่ออยู่ อย่าอยู่เพื่อทำงาน
จงสร้างความคิดให้กับตัวเองโดยการฝึกพูด
หลีกเลี่ยง คำว่า "ทำไม่ได้" หรือปฏิเสธอยู่เป็นประจำ จงพูดว่า"ฉันทำได้ " "ฉันจะพยายาม "
20.บทส่งท้าย
ทุกคนต้องการความสำเร็จ หากดำเนินการตามเคล็ดลับสู่ความสำเร็จ 19 ประการ
แล้ว เชื่อว่าจะประสบความสำเร็จแน่นอน ดังนี้
สุขภาพดี สุนทรีย์วาจา
นำพาพลังความคิด
พิชิตความจำ
ทำให้อารมณ์ดี เสียงดี
มีเสน่ห์
ทำเท่ห์ไหวพริบ ใกล้ชิดหัวหน้า
พัฒนาอุดมการณ์
เป็นพรานล่าเป้าหมาย แพร่งพรายสื่อสาร
อ่านนานรู้มาก
ไม่ลำบากเราแก้ไขได้ สร้างใจให้สุข
สนุกกับความฝัน
นวัตกรรมพัฒนา หรรษางานต่องาน
สืบสานความสงบ
พานพบฝันให้เป็นจริง
ที่มา : 19 เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ โดย อาภาภรณ์ โชติกเสถียร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น